1 วัน ณ เมืองYaizu

Yaizuเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตซุรุกะ ที่ตั้งอยู่ในช่วงกลางของจังหวัดชิซุโอกะ

เมืองYaizu เป็นที่รู้จักกันดีในนามของเมืองแห่งท่าเรือหาปลา โดยเฉพาะปลาทูน่า และปลาโอลาย หรือที่บางคนเรียกว่าปลาโอแถบ หากเดินทางมาYaizu โดยใช้รถไฟ เราสามารถใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้นในการเดินทางไปยังท่าประมงแห่งนี้ หากวันไหนอากาศดี แสงแดดจ้า ภายในระยะเวลา 10 นาทีที่เราเดินทางไปนั้น เราก็จะได้สัมผัสกับสีสันของเมืองนี้ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่บ้างก็ออกมาตกปลา บ้างก็ออกมาจับจ่ายใช้สอยเดินเล่นในตลาดปลา และอาจจะรวมไปถึงภาพที่ชาวประมงที่กำลังจัดการกับปลาที่เพิ่งหามาได้

บางครั้งหากเราไปตลาดปลาในตอนเช้า เราจะได้เห็นการประมูลปลา (ที่ญี่ปุ่นการประมูลปลานั้นเราจะเห็นกันเป็นประจำอยู่แล้วหากเมืองไหนขึ้นชื่อเรื่องการประมงหรือเป็นเมืองท่าที่ติดกับทะเล แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน (COVID-19) นั้นทำให้หลายๆการประมูลปลาถูกยกเลิกไป รวมถึงที่เมือง Yaizu ด้วยเช่นกัน)

แม้ตอนนี้ภาพการประมูลปลาอาจจะเห็นได้ยากในเมืองนี้ แต่ตอนนี้บริเวณใกล้ๆกับท่าประมงนั้นได้มีอควาเรียมปลาน้ำลึกเล็กๆ ที่ชื่อว่า “Umishiru” ไว้ให้เราได้เข้าไปดูหรือศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับปลาชนิดต่างๆที่สามารถจับได้ที่ท่าประมงแห่งนี้และยังรวมไปถึงสถานที่ๆมีชื่อว่า “Umiere Yaizu” ที่ๆเราสามารถช้อปปิ้งอาหารซีฟู้ดแบบสดๆ หรือจะรับประทานอาหารกลางวันที่นี้ก็ย่อมได้

ในวันนี้เราได้ตัดสินใจรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน “Maguro-chaya”ปลา Southern Bluefin Tuna หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า Minami-maguro เป็นปลาที่มีความพิเศษและยังเป็นที่นิยมมากๆสำหรับทานในรูปแบบของปลาดิบ หรือไม่ว่าจะนำมาทำเป็นหน้าซูชิ ก็คงความอร่อยไม่แพ้กันความน่าสนใจของท่าประมงแห่งนี้อีกสิ่งหนึ่งนั้นก็คือ กล่าวกันว่าท่าประมงที่นี้เป็นท่าประมงที่ใหญ่ที่สุดในการจับปลาทูน่า และยังเป็น 1 ใน 3 ของท่าประมงที่สามารถจับปลา Southern Bluefin Tuna ได้มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ตบท้ายด้วยของหวานถึงจะดี เราตัดสินใจไปจิบชายามบ่ายที่ร้าน Sanowa of Marutama-en กล่าวกันตามจริงเมือง Yaizu เป็นเมืองที่ไม่ได้มีการปลูกชามากมายนักเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ในจังหวัดชิซึโอกะ แต่ที่ร้าน Sanowa นั้น เมนูที่มีชาเขียวเป็นส่วนผสมไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือ เมนูของหวาน ก็อร่อยไม่แพ้เมืองที่ปลูกชากันเป็นหลักเลยทีเดียว

มัจฉะลาเต้, น้ำแข็งใสราดด้วยน้ำเชื่อมชาต่างๆ, ทีรามิสุชาเขียว และเมนูอื่นๆอีกมากมาย และแน่นอนหากต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับชาเขียวเราก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านนี้เช่นเดียวกัน

หากยังพอมีเวลา เราอยากขอแนะนำให้ลองไปเยี่ยมเยือนหมู่บ้านเก่าแก่ ที่ยังคงสภาพและบรรยากาศหมู่บ้านญี่ปุ่นสมัยเก่า “Hanazawa-no Sato” ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปก็มีคาเฟ่ Homemade เล็กๆ ให้ได้พักกายให้หายเหนื่อย หากเราเดินขึ้นต่อไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอกับภูเขาที่มีชื่อว่า Man-kan Ho ทีนี้ เราอยากแนะนำว่า หากท่านใดชื่นชอบการเดินเขา หรือกำลังคิดว่าอยากลองเดินเขา เดินเข้าป่าดูสักครั้ง ภูเขาแห่งนี้ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะภูเขาลูกนี้ขึ้นชื่อในเหล่าผู้ที่ชื่นชอบการเดินเขาเป็นอย่างมาก จนขนาดที่มีการสร้าง Hiking couse ไว้ให้เลยทีเดียว